สุขภาพ : ดีต่อคนเป็นเบาหวาน “กระเจี๊ยบเขียว” ผักพื้นบ้านมากสรรพคุณ

ดีต่อคนเป็นเบาหวาน “กระเจี๊ยบเขียว” ผักพื้นบ้านมากสรรพคุณ

      กระเจี๊ยบเขียว สามารถนำมารับประทานสด หรือต้มจิ้มกับน้ำพริกได้ หรือจะนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนูไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม แกงเลียง หรือจะใส่ในยำต่าง ๆ ฯลฯ ก็ได้ และนอกจากนำมาทำอาหารได้แล้ว กระเจี๊ยบเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

สรรพคุณของ กระเจี๊ยบเขียว 
1.กระเจี๊ยบเขียว เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะมีความสามารถในการควบคุมน้ำตาลในเลือดเนื่องจากในฝักกระเจี๊ยบเขียวมีเส้นใยอยู่มาก จึงช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งยังรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ใหญ่ให้คงที่ด้วย โดยมีงานวิจัยหนึ่งทดลองใช้สารสกัดจากเมล็ดและผิวของกระเจี๊ยบเขียวฉีดเข้าช่องท้องของหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวานในปริมาณ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พบว่าสารสกัดดังกล่าวอาจมีฤทธิ์ต้านเบาหวานด้วยการลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดของหนูทดลองลงอย่างมีนัยสำคัญ
       หมายเหตุ : แม้ผลการทดลองจากงานวิจัยบางส่วนจะเผยว่าสารสกัดจากกระเจี๊ยบเขียวอาจช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ แต่งานวิจัยเหล่านั้นเป็นเพียงการทดลองในสัตว์เท่านั้น จึงไม่สามารถสรุปประสิทธิผลของกระเจี๊ยบเขียวในด้านนี้ได้อย่างชัดเจนในมนุษย์
2.ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ เนื่องจากเส้นใยของกระเจี๊ยบเขียวจะช่วยกำจัดไขมันปริมาณสูงกับน้ำดี ซึ่งสามารถลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ คล้ายกับการกินยาลดไขมันและคอเลสเตอรอล
3.รักษาโรคกระเพาะอาหาร เพราะหากรับประทานฝักกระเจี๊ยบเป็นประจำ เมือกลื่นในฝักกระเจี๊ยบจะช่วยเคลือบกระเพาะอาหารทำให้กระเพาะไม่เกิดการระคายเคืองจึงช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบได้ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่
4.ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ มีงานวิจัยพบว่าอาจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง หลายคนจึงเชื่อว่าการบริโภคกระเจี๊ยบเขียวอาจช่วยต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกายไม่ให้เกิดการทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ จนเกิดโรคหรืออาการป่วยตามมาได้ และมีงานวิจัยหนึ่งศึกษาถึงประสิทธิผลของกระเจี๊ยบเขียวในห้องทดลองแล้วพบว่า กระเจี๊ยบเขียวอาจมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะสารฟลาโวนอยด์ และสารประกอบกลุ่มฟีนอลส่วนอีกงานวิจัยที่ศึกษาถึงการต้านอนุมูลอิสระของกระเจี๊ยบเขียวในห้องทดลองด้วยการวิเคราะห์ความสามารถในการทำลายและต้านสารอนุมูลอิสระ พบว่า สารสกัดจากฝักและเมล็ดของกระเจี๊ยบเขียวอาจมีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ โดยเฉพาะสารสกัดจากส่วนเมล็ด
      หมายเหตุ : อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวเป็นเพียงงานวิจัยขนาดเล็กที่ค้นคว้าในห้องทดลองเท่านั้น ควรศึกษาทดลองเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อไป
5.ในปี 2011 มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ซาอุดีฯ ในหัวข้อความสามารถของกระเจี๊ยบเขียวในการป้องกันโรคไต กระเจี๊ยบเขียวถูกพบว่าสามารถป้องกันการต่อต้านปฏิกิริยาทางเคมีที่มีส่วนในการทำลายไตได้ เพราะการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
6.มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้ถ่ายอุจจาระได้คล่องและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
7.กระเจี๊ยบเขียวมีโฟเลตสูง หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของทารกในครรภ์และช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงได้
8.การรับประทานฝักกระเจี๊ยบเป็นประจำสามารถช่วยบำรุงตับได้ 
9.แก้อาการกรดไหลย้อน โดยนำฝักกระเจี๊ยบไปต้มในน้ำเกลือ
10.ช่วยแก้อาการหวัด รักษาโรคหวัด
11.ช่วยป้องกันอาการหลอดเลือดตีบตัน

ขอขอบคุณข้อมูล จาก MGR Online

ข้อมูลประกอบบางส่วน :
www.pobpad.com
www.honestdocs.co
medthai.com