ข่าวพบพระ : ตำรวจ ลากตัวพ่อเลี้ยงหื่น-เมาเหล้า ข่มขืนลูกเลี้ยงทำแผนรับคำสารภาพ

ตำรวจ ลากตัวพ่อเลี้ยงหื่น-เมาเหล้า ข่มขืนลูกเลี้ยงทำแผนรับคำสารภาพ

       เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 พ.ต.อ.สมพงษ์ ไสยมรรคา ผกก สภ พบพระ จ.ตาก -พ.ต.ท.ณัฐวัตร ธรรมนิมิต รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.อำนาจ มณฑา สว.สสฯ ร.ต.อ.วัชรพงษ์ คงนา. พนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหนาที่ชุดสืบสวน สภ พบพระ ได้นำตัว นายอะดู หรือ ซาบีลา อายุ 40 ปีสัญชาติเมียนมา อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ม. 7 ต.พบพระ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ม.7 ต.พบพระ  อ.พบพระ โดยกล่าวหาว่า  ข่มขืนกระทำชำเรา เด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้มารดาหรือผู้ปกครองโดยเด็กนั้นจะให้ความยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยพาไปเพื่อการอนาจาร และเข้ามาพักอาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

       ร.ต.อ.วัขรพงษ์ คงนา รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก แจ้งว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที มูลนิธิสุวรรณนิมิต ได้พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติไม่มีชื่อสกุลจริง อายุ 9 ปี ชาวเมียนมา มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับพ่อเลียง คือนายอะดู หรือซาบีลา ชาวพม่า ซึงได้ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พ.ต.อ.สมพงษ์ ไสยมรรคา ผกก.สภ.พบพระ ได้มีคำสั่งให้ ทำการสืบสวน สอบสวนโดยเร็วเพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย พบพนักงานสอบสวนจึงได้ส่งตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลพบพระ และ นำไปสอบสวนปากคำต่อ นักสหวิชาชีพ อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนมีหลักฐานเชื่อว่า นายอะดูฯได้กระทำความผิดจึง จึงได้เรียกผู้ต้องหาให้มาพบ พร้อมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงทีเกิดขึ้นและแจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบ
       ว่ากระทำความผิดฐาน“ข่มขืนกระทำชำเรา เด็กหญิงอายุไม่เกิน สิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองโดยเด็กนั้นจะให้ความ ยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยพาไปเพื่อการอนาจาร และเข้ามาพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และสมัครใจพาพนักงานสอบสวนไปนำชี้ที่เกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ

      พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปยืนคำร้องฝากขังที่ศาลจังหวัดแม่สอด และคัดค้านการประกันตัว เพราะ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปก่อเหตุซ้ำ หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS