บทความสุขภาพ  :  ภัยเงียบ  เบาหวานลงไต

ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก  ในอายุที่น้อยลง  อีกทั้งการรักษาในบางทีก็สายเกินไป  เพราะส่วนใหญ่ที่มาพบแพทย์นั้น จะมาในระยะที่อาการเริ่มหนักจนไม่สามารถรักษาได้  ประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย โดยพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 95 เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 คือโรคไตจากเบาหวาน

โรคไตจากเบาหวาน หรือ เบาหวานลงไต เป็นภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน  ลักษณะอาการ มีดังต่อไปนี้

1.มีภาวะโปรตีนชนิดอัลบูมินรั่วออกมาในปัสสาวะ ระยะแรกมีปริมาณเล็กน้อย และมากขึ้นตามลำดับ
2.มีความดันโลหิตสูง
3.การทำงานของไต ในระยะแรกจะปกติ ต่อมาจะเริ่มเสื่อม และเสื่อมมากขึ้นจนเกิดโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตจากเบาหวาน

1.ระยะเวลาของการเป็นเบาหวานมานาน
2.มีประวัติครอบครัวของโรคไตจากเบาหวาน หรือไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย หรือความดันโลหิตสูง
3.การควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
4.การควบคุมระดับความดันโลหิตสูงได้ไม่ดี
5.ภาวะไขมันในเลือดสูง
6.มีโปรตีนชนิดอัลบูมินรั่วออกทางปัสสาวะมากกว่าปกติ
7.การสูบบุหรี่

แนวทางการป้องกันและรักษา

1.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับดี
2.ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งในข้อนี้ มีการแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มของยาลดความดันโลหิตที่สามารถเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่ง หรือใช้ร่วมกัน หากไม่มีข้อห้าม และควรมีการปรึกษาแพทย์
3.ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอัลบูมินในปัสสาวะ และ/หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงต้องได้รับการรักษา ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท เพื่อช่วยชะลอการเสื่อมของไต
4.ควรได้รับคำแนะนำและควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างเหมาะสม ได้แก่ การควบคุมระดับไขมันในเลือด การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และงดสูบบุหรี่
5.ควรได้รับการดูแลรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เช่น จำกัดปริมาณโปรตีนในอาหารให้เหมาะสม

 

ขอขอบคุณข้อมูล  :  Manager.co.th

ขอขอบคุณรูปภาพ  :  health2click