ข่าวทั่วไป : สหรัฐเจอวิกฤตชัตดาวน์อีกรอบ หลังวุฒิสภาขวางร่างงบสอดไส้ ‘กำแพงทรัมป์’ $5,000 ล้าน

สหรัฐเจอวิกฤตชัตดาวน์อีกรอบ หลังวุฒิสภาขวางร่างงบสอดไส้ ‘กำแพงทรัมป์’ $5,000 ล้าน

รอยเตอร์ – รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์หลังเที่ยงคืนวันศุกร์ (21 ธ.ค.) เป็นต้นไป หลัง ส.ว. รีพับลิกันไม่สามารถระดมเสียงในวุฒิสภาให้ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวที่สอดไส้เงินสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโกอีก 5,000 ล้านดอลลาร์ตามที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้อง

      ทรัมป์ ออกมาขู่ก่อนหน้านี้ว่า การปิดหน่วยงานสำคัญๆ ของรัฐบางส่วน “อาจกินเวลานานมาก” ซึ่งทั้งหมดเป็นความผิดของพรรคเดโมแครต

      ด้านฝ่ายเดโมแครตก็โทษว่าเป็นเพราะ ทรัมป์ ต่างหาก และย้ำเตือนว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาเป็นคนพูดเองว่ารู้สึก “ภาคภูมิใจ” ที่จะปิดหน่วยงานรัฐอีกครั้ง เพื่อให้ได้เงินไปสร้างกำแพง

      เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ส.ว.รีพับลิกันและเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวที่ไม่รวมเงินสร้างกำแพง 5,000 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาประกาศกร้าวในวันพฤหัสบดี (20) ว่าจะไม่ยอมลงนามเด็ดขาด

      ภาวะชัตดาวน์ที่จะขึ้นยิ่งชี้ให้เห็นถึงความปั่นป่วนภายในวอชิงตัน และไม่ใช่สัญญาณที่ดีนักสำหรับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งต้องเตรียมรับมือกับพรรคเดโมแครตที่จะเริ่มเข้าคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ต้นปีหน้า

     ชัค ชูเมอร์ แกนนำส.ว.เดโมแครต กล่าวในที่ประชุมวุฒิสภาว่า “คุณจะไม่มีทางได้ (เงินสร้าง) กำแพง ไม่ว่าวันนี้ สัปดาห์หน้า หรือในวันที่ 3 ม.ค. ที่ส.ส.เดโมแครตจะเข้าควบคุมสภาล่าง”

     ไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเที่ยงคืน สภาชิกรัฐสภาได้เข้าพบรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเพื่อหาวิธีประนีประนอมให้ได้ร่างงบประมาณที่ทั้ง 2 พรรคและ ทรัมป์ ยอมรับได้ แต่ปรากฏว่าการเจรจาล้มเหลว

      สภาผู้แทนราษฎรได้ประกาศเลื่อนการอภิปรายออกไปเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันศุกร์ (21) ขณะที่วุฒิสภาก็สั่งเลื่อนประชุมในเวลา 20.00 น. ทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์บางส่วนหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป

     อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมที่จะเปิดประชุมเพื่ออภิปรายร่างงบประมาณอีกหนในช่วงเที่ยงวันนี้ (22) หรือประมาณเที่ยงคืนวันเสาร์ในไทย

     แม้หน่วยงานรัฐบาลราว 3 ใน 4 จะยังคงมีงบอุดหนุนเต็มจำนวนไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. ปี 2019 เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ทว่างบประมาณสำหรับหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงเกษตร จะหมดลงหลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ (21)

     เจ้าหน้าที่ซึ่งมีภารกิจสำคัญ เช่น หน่วยป้องกันชายแดน รวมไปถึงพนักงานอื่นๆ ที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้รับเงินค่าจ้างจนกว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงผ่านร่างงบประมาณ ขณะที่อุทยานแห่งชาติต่างๆ ก็ต้องปิดทำการชั่วคราวเช่นกัน

     ทรัมป์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ (21) ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนคราวนี้คงจะ “กินเวลาไม่นานนัก”

      “เรากำลังเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้อีก เพราะเราจำเป็นต้องให้พรรคเดโมแครตช่วยโหวตสนับสนุน” ทรัมป์ ทวีตข้อความก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย “แต่การชัตดาวน์ครั้งนี้คงจะกินเวลาไม่นาน”

     ย้อนกลับไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการหารือกับ ส.ว.รีพับลิกันที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ ได้ทวีตกล่าวโทษพรรคเดโมแครตว่าจะเป็นตัวการทำให้เกิดชัตดาวน์รอบใหม่ ซึ่งนั่นก็ขัดแย้งกับสิ่งที่เขาพูดขณะโต้เถียงกับ ส.ว. ชัค ชูเมอร์ ผ่านโทรทัศน์เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. โดยตอนนั้น ทรัมป์ พูดว่า “ผมภูมิใจที่จะได้ปิดหน่วยงานรัฐเพื่อความมั่นคงชายแดน, ชัค, เพราะคนในประเทศนี้ไม่ต้องการอาชญากรและพวกที่นำปัญหาและยาเสพติดเข้ามาในประเทศของเรา… ผมนี่แหละจะเป็นคนชัตดาวน์เอง”

      ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะพักการประชุม คณะผู้เจรจาได้หารือเกี่ยวกับงบประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนมาตรการป้องกันพรมแดน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องกำแพงอย่างเดียว และยังรวมถึงเงินช่วยเหลือพื้นที่ซึ่งประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติด้วย

      ตัวเลข 1,600 ล้านดอลลาร์นี้เพิ่มขึ้นมาอีกเพียง 300 ล้านจากในร่างงบประมาณชั่วคราวที่วุฒิสภาอนุมัติเมื่อค่ำวันพุธ (19) และถูก ทรัมป์ ปฏิเสธ

     ทรัมป์ ถือว่าการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโกเพื่อสกัดผู้อพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญที่ตนได้หาเสียงไว้เมื่อปี 2016 และจะต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งในช่วงแรกๆ ทรัมป์ อ้างว่าจะบังคับให้เม็กซิโกเป็นผู้จ่ายเงิน

    ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงเชื่อว่า หากสร้างกำแพงสำเร็จจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ช่วยให้ตนชนะศึกเลือกตั้งอีกสมัยในปี 2020 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากพรรคเดโมแครตที่มองว่านโยบายนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาผู้อพยพที่ได้ผลจริง

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก MGR Online