สิงคโปร์เริ่มสำลักควัน “ไฟป่าอิเหนา” ค่ามลพิษพุ่งแตะระดับอันตราย

ข่าวรอบโลก : ท้องฟ้าเหนือเกาะสิงคโปร์เริ่มถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากไฟป่าในอินโดนีเซียวันนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่ค่ามลพิษเริ่มพุ่งสูงถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และคุณภาพอากาศยังคงย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ในช่วงบ่ายของวัน 

วิกฤตหมอกควันจากไฟป่าอิเหนาถือเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยสภาพอากาศที่แล้งจัดจากปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ยิ่งทำให้สถานการณ์เข้าขั้นร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ควันไฟหนาทึบจากอินโดนีเซียได้แผ่ลามมาปกคลุมประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงภาคใต้ของไทย ทำให้ประชาชนจำนวนมากล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ทั้งยังต้องมีการสั่งปิดโรงเรียน และยกเลิกเที่ยวบิน

รัฐบาลอินโดนีเซียถูกเพื่อนบ้านติเตียนอย่างหนักที่ไม่สามารถยับยั้งปัญหานี้ได้

สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์แถลงว่า ค่าดัชนีมาตรฐานมลภาวะทางอากาศ (PSI) อยู่ที่ระดับ 165 ในเวลา 4.00 GMT (11.00 น. ตามเวลาในไทย) ของวันนี้ (26)

ทั้งนี้ หากค่าพีเอสไอพุ่งเกิน 100 จะถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคาร

หมอกควันสีเทาได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมท้องฟ้าพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง ขณะที่ทัศนวิสัยแทบจะเป็นศูนย์ เมื่อมองจากอาคารสูงและจุดชมวิวต่างๆ

ช่างภาพเอเอฟพีรายงานว่า จากจุดชมวิวบน “เมาท์ เฟเบอร์” ซึ่งสูงที่สุดในสิงคโปร์ แทบจะมองไม่เห็นเส้นขอบฟ้าและหมู่อาคารสูงในเมือง

ทางด้านกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียก็เริ่มได้รับผลกระทบจากควันไฟป่าตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว แต่ค่ามลพิษในอากาศยังไม่ถึงขั้นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สื่อแดนเสือเหลืองรายงานว่า สัปดาห์ที่แล้วพื้นที่หนึ่งในรัฐเประ (Perak) มีค่ามลพิษพุ่งสูงถึงระดับอันตรายอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง

เว็บไซต์สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และจีโอฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย ได้เผยแพร่ข้อมูลดาวเทียมซึ่งพบว่า ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมามี “ฮอต สป็อต” ซึ่งหมายถึงบริเวณที่มีเพลิงไหม้หรือสุ่มเสี่ยงเกิดไฟป่า เพิ่มขึ้นหลายสิบจุดบนเกาะสุมาตรา ส่วนที่เกาะบอร์เนียวฝั่งอินโดนีเซียซึ่งมีการแผ้วถางและเผาป่ากันทุกปีก็มี “ฮอต สป็อต” อยู่ 31 จุด ในช่วงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (25)

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไฟป่าในขณะนี้ยังถือว่าไม่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับช่วง “พีค” ของปีที่แล้ว ซึ่งไฟได้ปะทุขึ้นหลายร้อยจุดจนควบคุมไม่อยู่

สุโตโป ปุรโว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุว่า ทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 8 ลำ และเครื่องบินอีก 2 ลำเข้าไปทิ้งน้ำเพื่อดับไฟป่า นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินโปรยสารเคมีก่อเมฆอีก 2 ลำเพื่อช่วยสกัดกั้นไฟอีกแรงหนึ่ง

ขอขอบคุณภาพ-เนื้อข่าว โดย Manager.co.th