ข่าวตาก  :  เกิดเหตุระเบิดสนั่น หลังชาวบ้าน จ.ตาก เข้าไปเก็บกระสุนปืนด้านในที่ฝึกกองทัพ

          เมื่อวันที่ 8 เม.ย.59 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนเสียชีวิตเนื่องจากกระสุนด้านระเบิด 2 จุด ในพื้นที่ ต.โป่งแดง อ.เมืองตาก จ.ตาก จึงวิทยุแจ้งไปที่ สภ.วังประจบ เข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เหตุการณ์แรกเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในบริเวณเขตหมู่ 4 ต.โป่งแดง ทำให้นายศรชัย เลิกม๊อก ซึ่งเข้าไปเก็บผักหวานร่วมกับเพื่อนบ้านอีก 4 คน ที่เดินแยกกันเสียชีวิต คาดว่าผู้ตายอาจไปเก็บกระสุนปืนที่ด้านแล้วเกิดระเบิดขึ้นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

เกิดเหตุระเบิดสนั่น หลังชาวบ้าน จ.ตาก เข้าไปเก็บกระสุนปืนด้านในที่ฝึกกองทัพ

          เหตุการณ์ที่สอง เวลา 17.50 น. เกิดเหตุระเบิดที่บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ที่ 12 ต.โป่งแดง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นหญิง 2 ราย เด็กชาย 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ส่งรพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อทำการรักษา จากคำให้การของเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่า หญิง 2 รายที่เสียชีวิตไปเก็บกระสุนด้านจากพื้นที่ฝึกของกองทัพภาคที่ 3 ใส่ถุงนำกลับมาที่บ้าน ขณะอยู่ที่บริเวณลานใต้ต้นไม้ข้างบ้านเทออกจากถุงและเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังกึกก้อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้หลายราย

เกิดเหตุระเบิดสนั่น หลังชาวบ้าน จ.ตาก เข้าไปเก็บกระสุนปืนด้านในที่ฝึกกองทัพ

          ด้านพล.ต.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผบ.มทบ.310 ได้ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ฝึกของกองทัพภาคที่ 3 โดยเด็ดขาด ซึ่งมีการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจของกองทัพภาคที่ 3 โดยใช้กระสุนจริงเมื่อวันที่ 19-23 มี.ค. ที่ผ่านมา และกำลังเร่งดำเนินการสำรวจและทำลาย หากประชาชนพบวัตถุที่น่าสงสัยอย่าแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด ขอให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ทำลายต่อไป

         ก่อนหน้านี้กองทัพภาคที่ 3 ได้มีการประชาสัมพันธ์ ห้ามประชาชนเข้าพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 3 แล้ว เนื่องจากอาจมีอันตรายจากวัตถุระเบิดและกระสุนด้านที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ได้ให้ประชาชนรับทราบตั้งแต่ก่อนฝึกและหลังฝึก หลังเกิดเหตุการณ์นี้ได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นได้มอบเงินให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท และมอบเงินให้กับผู้บาดเจ็บรายละ 20,000 บาท“

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  เดลินิวส์