ข่าวแม่สอด  :  ไฟไหม้บ้านพักครูบำนาญแม่สอด ลูกชายติดชั้น 2 โชคดีช่วยทันปลอดภัย

         เกิดเหตุไฟไหม้คลังเก็บจักรยานมือสอง ก่อนลามเผาบ้านพักครูบำนาญกลางแม่สอดวอด ลูกชายเจ้าของบ้านติดอยู่บนชั้น 2 พ่อ-พลเมืองดีปีนรั้ว-ทุบกระจกฝ่าเปลวเพลิงช่วยลูกติดอยู่ในบ้านออกมาได้หวุดหวิด

         วันนี้ (20 ธ.ค.) ร.ต.อ.เกษตรสันต์ เนตรแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักของข้าราชการครูบำนาญ เลขที่ 27 ถนนประสาทวิถี เขตเทศบาลนครแม่สอด เมื่อเวลา 13.00 น.เศษที่ผ่านมา หลังรับแจ้งเหตุจึงวิทยุประสานฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดนำรถดับเพลิงจำนวน 4 คันเร่งไปดับเพลิง

         ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ซึ่งภายในตัวบ้านตกแต่งด้วยไม้อย่างสวยงาม พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจากบริเวณคลังเก็บรถจักรยานมือสองกว่า 50 คัน และลุกลามไหม้เข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตัวบ้านสร้างติดกับจุดต้นเพลิง

         ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบคนติดอยู่ภายในห้องนอนชั้นสองของตัวบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง พลเมืองดีต้องเสี่ยงชีวิตปีนรั้วบ้านแล้วทุบกระจกหน้าต่างชั้นสอง ก่อนนำตัวผู้ติดภายในออกมาได้อย่างหวุดหวิดเกือบถูกย่างสด

         จากนั้นหน่วยดับเพลิงระดมฉีดน้ำและใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และลูกชาย ถูกไฟลวกตามร่างกาย จึงนำตัวส่งรักษาขณะนี้อาการปลอดภัย

ไฟไหม้บ้านพักครูบำนาญแม่สอด ลูกชายติดชั้น 2 โชคดีช่วยทันปลอดภัย

         สอบสวนนายสมฤทัย จันทร์เจริญ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการครูบำนาญเจ้าของบ้าน ให้การเบื้องต้นกับตำรวจว่า ระหว่างเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน มีเพียงบุตรชาย อายุ 28 ปี พักผ่อนอยู่ภายในห้องชั้นสอง และฟังจากผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าพบเสียงคล้ายไฟฟ้าช็อตบริเวณข้างตัวบ้าน ซึ่งใช้เป็นที่เก็บรถจักรยานจำนวนมาก ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้ที่กองรถจักรยาน และลุกลามเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว

         นายสมฤทัยกล่าวอีกว่า หลังตนทราบข่าวจึงรีบเดินทางกลับบ้าน ก่อนจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยลูกชายพร้อมพลเมืองดีอีกหลายคน จนสามารถนำตัวบุตรชายออกมาได้ทันเวลาแบบทุลักทุเล แต่ก็ทำให้ตน และลูกชายถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย

         ล่าสุดขณะนี้ตำรวจได้ปิดกั้นบ้านเกิดเหตุไม่ให้ผู้ใดเข้าโดยเด็ดขาด เพื่อรอตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเดินทางเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000126443