ข่าวแม่สอด : จับได้แล้ว 2 สาวแสบหลอกเสี่ยแม่สอด ดูดนมรูดทรัพย์นับล้าน

        ตำรวจตามรวบแล้ว 2 สาวแสบคนเมืองแพร่ และสมุทรปราการ ตีสนิทเสี่ยหนุ่มแม่สอด ก่อนหลอกให้ดูดนมเปรี้ยว รูดแหวนเพชร-โรเล็กซ์-เงิน ฯลฯ ค่านับล้าน พบประวัติยาว มีหมายจับติดตัวถึง 4 หมาย

       รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.ดิเรก อินหันต์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชรล , พ.ต.อ.วรชิต จันทร์วงศ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ต้องหา ที่ออกอุบายตีสนิทเสี่ยหนุ่มแม่สอด ก่อนหลอกให้ดูนมเปรี้ยว จนวูบหลับคารีสอร์ตกำแพงเพชร แล้วรูดทรัพย์สินทั้งแหวนเพชร นาฬิกาโรเล็กซ์ เงินสด ฯลฯ รวมมูลค่านับล้านบาทไปเมื่อ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้แล้วในท้องที่ จ.อุดรธานี

       โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นางสาวเบญจกันย์ เนตรหาร และนางรวีวรรณ โพนขาว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายจับและศาลกำแพงเพชรได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว

       และต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.60 ก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี 1.นางสาวเบญจกันย์ เนตรหาร อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 58/2 หมู่ที่ 3 ต.น้ำซำ อ.เมือง จ.แพร่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 120/2560 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 และ 2.นางรวีวรรณ โพนขาว อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 627/19 หมู่ที่ 5 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 137/2560 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2560

       จากนั้นก็ได้มีการควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดีฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ”

       ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษและหมายจับ พบว่า นางฉวีวรรณ โพนขาว มีประวัติต้องทาในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ จำนวน 5 คดี ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน,สภ.เมืองสุรินทร์,สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และ สภ.เมืองสระบุรี รวมทั้งมีหมายจับ ที่ยังจับกุมตัวไม่ได้ จำนวน 4 หมายจับ อีกด้วย

       โดยแต่ละคดีมีแผนประทากรรมคล้ายกับที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้หากพื้นใด มีเหตุการณ์ลักษณะใกล้เคียงกันเกิดขึ้น สามารถติดต่อประสานงานข้อมูลได้จากเจ้าหน้าที่ตำรววจ สภ.เมืองกำแพงเพชร หรือ กก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร เพื่อตรวจสอบทันที 

ขอขอบคุณข่าว-ภาพ จาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071563