ข่าวทั่วไป : จ่อเอาผิดแรงงานพม่าขับวินมอเตอร์ไซค์-เหตุเป็นงานห้ามต่างด้าวทำ

         ก.แรงงาน ย้ำ “ต่างด้าว” ทำงานขับวินมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ เหตุเป็นงานห้ามต่างด้าวทำตามกฎหมาย ชี้ หากมีใบอนุญาตทำงานถือว่าผิด กม. การทำงานของคนต่างด้าวด้วย สามารถเอาผิดได้ เหตุไม่เกี่ยวกับกรณีผ่อนปรนบทลงโทษ

        นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า เข้ามาทำงานขับวินมอเตอร์ไซค์ ว่า ตามประกาศกำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 คือ งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกล ยกเว้นงานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศ จึงถือว่ามีความผิด นอกจากนี้ คนต่างด้าวดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ดังนี้ 1. หากทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานจะมีความผิดตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 101 2. หากมีใบอนุญาตทำงานแต่ทำงานแตกต่างจากประเภทงาน นายจ้าง ท้องที่หรือเงื่อนไขในการทำงาน ตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตทำงาน จะมีความผิดตามมาตรา 70 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ตามมาตรา 121

       “อย่างไรก็ตาม แรงงานขับวินมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นบทลงโทษตามมาตรา 101 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 33/2560 แต่หากแรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานประเภทอื่น และมาขับขี่วินมอเตอร์ไซค์จะมีความผิดตามมาตรา 70 ประกอบมาตรา 121 ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานของแรงงานพม่าที่ขับวินมอเตอร์ไซต์ในครั้งนี้ต่อไป” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

       นายวรานนท์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าวินมอเตอร์ไซค์ชาวพม่า เรียกเก็บเงินจากแรงงานพม่าด้วยกัน โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกเพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทางของหน่วยงานรัฐนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำให้ข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตโปร่งใส ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีคำสั่งไม่ให้พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใด โดยเห็นแก่ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น หากพบกระทำผิดจะต้องดำเนินการทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครองกับพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ผู้นั้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก manager