ข่าวแม่สอด  :  น้ำป่าทะลักท่วมวัด พระสงฆ์ตีฆ้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

         วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องหลายชั่วโมงช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าสีขุ่นแดงจากภูเขาสูงได้ไหลหลากรุนแรงจนเสียงดังสนั่นหุบเขา ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวไทยภูเขา บ้านพะดี หมู่ที่ 2 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก อย่างฉับพลัน โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวลำห้วยพะดี และพื้นที่ลุ่มต่ำต่างพากันแตกตื่นรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำป่ากันอย่างโกลาหล

          ขณะเดียวกัน พระสงฆ์ที่จำวัดในสำนักสงฆ์ บ้านพะดี ต้องตีฆ้องร้องป่าวตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เนื่องจากสำนักสงฆ์ถูกน้ำป่าไหลเข้าถล่มอย่างรุนแรง จนชาวบ้านที่กำลังขนย้ายสิ่งของในบ้านของตนเองต้องหยุดขนของของตนเอง แล้วรีบฝ่ากระแสน้ำป่าเข้าไปช่วยพระสงฆ์ที่ติดน้ำป่า และรีบช่วยกันขนย้ายพระพุทธรูป สิ่งของมีค่าในสำนักสงฆ์ ออกไปไว้บนที่สูงอย่างเร่งด่วน แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำไหลรุนแรง

         นอกจากนี้ น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านพะดียังไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

         ด้านนายอภิชาต เหมือนมนัส นายอำเภอพบพระ จ.ตาก ได้สั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน พร้อมนำน้ำดื่ม และอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านพะดี เป็นการบรรเทาทุกข์เบื้องต้นอย่างเร่งด่วน

         ขณะเดียวกันมีรายงานเพิ่มว่า ฝนที่ตกอย่างหนักในเขตชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ก็ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากภูเขาทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน ส่งผลทำให้น้ำป่ากัดเซาะคอสะพานที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างบ้านปูเตอร์ หมู่ที่ 4 กับบ้านโกช่วย หมู่ที่ 10 ต.แม่กุ อ.แม่สอด ขาดสะบั้น รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ

หลังเกิดเหตุ ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลแม่กุได้รีบเข้าไปสำรวจความเสียหาย พร้อมนำป้ายติดสัญญาณเตือนห้ามประชาชนเข้าใกล้แนวสะพานแห่งนี้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากระดับน้ำใต้สะพานยังคงสูงและไหลรุนแรง

         ขณะที่นายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด ได้นำปลัดอำเภอแม่สอด, สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลแม่กุ เร่งเข้าสำรวจความเสียหายโดยทันที และสั่งการให้ทีมช่วยเหลือฉุกเฉินของอำเภอแม่สอดจับตาสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง

         พร้อมกับเร่งออกแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามพื้นที่เชิงเขาให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้ เนื่องจากพื้นที่ตลอดแนวชายแดนตากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่อง และขอให้เฝ้าฟังข่าวสารจากอำเภอแม่สอดอย่างใกล้ชิด