ข่าวแม่สอด: ฝนตกยาว-ถนนเป็นโคลนลึกตัดทางเข้าออก ชุมชนบนดอยแม่สอดถึงขั้นวิกฤต

ฝนตกยาว-ถนนเป็นโคลนลึกตัดทางเข้าออก ชุมชนบนดอยแม่สอดถึงขั้นวิกฤต

       เฮกันลั่น..นอภ.แม่สอด-อส.-จิตอาสา ขนถุงยังชีพฝ่าทะเลโคลนลึกกว่าเมตร ที่แม้แต่ จยย.พันโซ่-รถไถ ยังติดกลางทาง ช่วยชาวบ้านบนดอยสูงหลายร้อยหลังคา-ครูและนักเรียนกว่า 400 ชีวิต ที่เจอวิกฤตขาดแคลนอาหาร
หลังมีฝนตกหนักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านปางส่างคำ หมู่ที่ 5 ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สอด ราว 60 กว่า กม. มีประชากรราว 365 ครัวเรือน ไม่รวมชุมชน หรือป๊อกบริวาร อีกนับสิบ แทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

      เพราะเส้นทางเข้าออก กว่า 30 กม.เป็นถนนผ่านดอยสูง ป่ารกทึบ และเมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ถนนดินลูกรังกลายเป็นทะเลโคลนลึกกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 14 กม. จนทำให้รถจักรยานยนต์-รถยนต์ที่ชาวบ้านดัดแปลงติดโซ่ที่ล้อ ก็ยังไม่สามารถขับผ่านทะเลโคลนนี้ไปได้ รวมถึงรถไถขนาดใหญ่ บางครั้งก็ยังติดกลางทะเลโคลน

      บางช่วงชาวบ้านต้องใช้วิธีเดินเท้าออกมาซื้อหาเสบียงอาหาร และนำคนป่วยส่งรักษา ซึ่งก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 วันเต็มๆ จนสถานการณ์ภายในหมู่บ้าน และชุมชนบริวารเริ่มวิกฤตหนัก เนื่องจากอาหารสด-อาหารแห้ง ที่ชาวบ้านกักตุนไว้เริ่มหมด อาหารแห้งในร้านค้าเกลี้ยงสต๊อก

      แต่ที่วิกฤตหนักสุดก็คือ คลังอาหารแห้งของโรงเรียนที่มีอยู่ 2 โรงหมดเกลี้ยงเช่นกัน ทำให้นักเรียน และครูผู้สอนกว่า 400 คน ไม่มีอาหารรับประทาน จนครูดอยต้องเข้าป่าไปตัดกล้วยมาให้นักเรียนรับประทานเพื่อประทังชีวิต และบางครั้งต้องออกเดินเท้าลุยฝนลุยทะเลโคลนไปซื้ออาหารแห้ง จากหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งต้องใช้เวลาไป-กลับไม่ต่ำกว่า 12 ชม.

      ล่าสุดวานนี้(12 ก.ย.) หลังฝนหยุดตกและสภาพอากาศเริ่มเปิด นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.อำเภอแม่สอด พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.พะวอ , เจ้าหน้าที่ ปภ.เขตแม่สอด และกลุ่มจิตอาสา “พบพระออฟโรด” นำรถขับเคลื่อนสี่ล้อจำนวน 10 คัน ลำเลียงถุงยังชีพกว่า 1,000 ถุง ออกจากอำเภอแม่สอด เพื่อเดินทางเข้าป่าไปยังหมู่บ้านปางส่างคำ

      แต่การเดินทางก็ประสบปัญหาขบวนรถติดทะเลโคลนกลางภูเขา ซึ่งขอบถนนติดกับเหวลึกเกือบตลอดเส้นทาง จนชาวบ้านนับร้อยคนที่ทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังมาช่วยชาวบ้าน..ต่างพากันนำจอบ และอุปกรณ์เท่าที่จะหาได้เดินเท้าออกจากหมู่บ้านพร้อมด้วย มาช่วยกันขุด-ตักโคลนออกจากเส้นทางในจุดอันตราย พร้อมมาช่วยกันลาก-ดันรถยนต์ของขบวนลำเลียงถุงยังชีพ จนรถทุกคันที่ติดโคลนผ่านจุดวิกฤติไปถึงหมู่บ้านปางส่างคำด้วยความปลอดภัยท่ามกลางฝนที่ตกเป็นระยะ

      และทันทีที่ขบวนรถและเจ้าหน้าที่หลายสิบชีวิตเดินทางมาถึงกลางหมู่บ้านปางส่างคำ เด็กๆและชาวบ้านทุกคนต่างส่งเสียงตะโกนร้องด้วยความดีใจที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด เข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นครู-นักเรียน และชาวบ้าน จึงช่วยกันลำเลียงถุงยังชีพเข้าไปเก็บรักษาในคลังอาหารกลางวันของทั้งสองโรงเรียนเป็นลำดับแรก พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำถุงยังชีพแจกจ่ายให้ชาวบ้านจำนวน 365 ครวบครัวโดยทั่วถึงกัน สร้างความดีใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ด้านครูดอยคนหนึ่งเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปีนี้ฝนตกติดต่อกันยาวนานหลายเดือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนทำให้ทั้งครูดอย และนักเรียน รวมถึงชาวบ้านทุกหมู่บ้านเดือดร้อนหนัก เนื่องจากถนนเข้า-ออกหมู่บ้านใช้สัญจรไม่ได้ อาหารแห้งของโรงเรียนหมดคลัง จนเกิดวิกฤต นอกจากนี้การลำเลียงผู้ป่วยหนักจากหมู่บ้านไปโรงพยาบาลแม่สอด ก็ต้องใช้วิธีเดินเท้ากันทั้งคืน เนื่องจากรถไถทางการเกษตรก็ยังติดโคลน กระทั่งทางเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ชาวบ้านและนักเรียนต่างดีใจกันมาก

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ โดย MGR Online