พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

       เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นายอรรษิษฐ์  สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ -นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก เดินทางมาร่วมงาน ที่บริเวณลานหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โครงการดังกล่าวจัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนและสังคมตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เป็นการบูรณาการในการช่วยเหลือ คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ภาคประชาสังคมและประชาชนให้เบาะแส และมีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังความรุนแรงในครอบครัว ปัจจุบันความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม มีทุกรูปแบบ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทางเพศ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในบ้าน โรงเรียน สถานที่ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุด เช่น บ้านหรือครอบครัว กลับพบว่ามีแนวโน้มของความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันสังคมส่วนรวมยังขาดความเข้าใจและการตระหนักถึงปัญหา กลับมองว่าความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว

พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
พ่อเมืองตาก เปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

       สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหน่วยงานภาตรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม อาสาสมัครชุมชน นักเรียนและประชาชนทั่วไป จำนวน 500 คน เดินขบวนพาเหรดรณรงค์ฯ พร้อมแจกแผ่นพับ สื่อประชาสัมพันธ์ ความรู้เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มต้นขบวนที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ไปตามถนนอินทรคีรี เข้าสู่ถนนประสาทวิถี สิ้นสุดที่โรงเรียนสรรพวิทยาคม ซึ่งระหว่างทางที่ขบวนเดินผ่าน มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS