ข่าวทั่วไป  : สหรัฐฯ ราคาน้ำมันฟื้นตัว ทองคำปรับลด มีแนวโน้มปฏิรูปภาษี

         มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ – ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันอังคาร(22ส.ค.) คาดหมายในแง่ดีต่อข้อมูลเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่จะเผยแพร่ในวันพุธ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง หลังส.ส.อเมริกามองในแง่บบอกต่อแนวโน้มแผนปฏิรูปภาษีจะผ่านความเห็นชอบจากคองเกรส ส่วนทองคำปรับลดจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

         สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 51.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สหรัฐฯ ราคาน้ำมันฟื้นตัว ทองคำปรับลด มีแนวโน้มปฏิรูปภาษี

         ตลาดเตรียมพร้อมรับมือกับข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ถูกคาดหมายว่าจะลดลงอย่างมากอีกหนึ่งสัปดาห์

         โดยผลสำรวจความคิดเห็นของพวกนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยรอยเตอร์ เชื่อว่ารายงานตัวเลขคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ ที่ทางสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ(23ส.ค.) น่าจะลดลงราวๆ 3.7 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 1.3 ล้านบาร์เรลและน้ำมันกลั่นลดลง 500,000 บาร์เรล

         ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(22ส.ค.) ดัชนีทั้ง 3 ตัวทำสถิติปิดบวกวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ นักลงทุนขานรับในทางบวกต่อความคิดเห็นของพวกส.ส.เกี่ยวกับเพดานหนี้และมาตรการปฏิรูปภาษี

         ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 196.14 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,899.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.14 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,452.51 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 84.35 จุด (1.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,297.48 จุด

         พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร บ่งชี้ว่าแผนปฏิรูปภาษีน่าจะผ่านความเห็นชอบง่ายกว่าแผนร่างกฎหมายยกเครื่องประกันสุขภาพ เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันมีความเห็นเป็นเอกฉันท์

         ขณะที่ มิตช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาบอกเมื่อวันจันทร์(21ส.ค.) ว่ามีโอกาสเป็น “ศูนย์” ที่สหรัฐฯจะล้มเหลวในการขยายเพดานหนี้ ปัดเป่าความกังวลว่าอเมริกาอาจเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้

         ด้านราคาทองคำในวันอังคาร(22ส.ค.) ปิดลบ จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,291.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000086243