ข่าวตาก : สาหัส!ดาวเทียมเจอเผากว่า3พันจุดทั่ว9จว.เหนือ-เชียงใหม่หมอกควัน-ตาก 211จุด

สาหัส!ดาวเทียมเจอเผากว่า3พันจุดทั่ว9จว.เหนือ-เชียงใหม่หมอกควัน-ตาก 211จุด

ดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อนจากการเผาทั่ว9ภาคเหนือตอนบนกว่า 3,000 จุด เชียงใหม่หมอกควันหนาทึบคลุมต่อเนื่อง คุณภาพอากาศยังดำดิ่งกระทบสุขภาพ ขณะที่ไฟไหม้ป่าดอยหลวงเชียงดาวยังหนัก

      วันนี้(1เม.ย.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยหมอกควันต่อเนื่องกันอีกครั้งเป็นวันที่ 3-4 แล้ว แม้ว่าช่วงเย็นวานนี้ท้องฟ้าจะโปร่งใสขึ้นบ้างเนื่องจากกระแสลมที่พัดผ่านช่วยทำให้หมอกควันไฟเบาบางลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเผาในพื้นที่ป่าที่ยังคงมีอยู่จำนวนมาก ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง ส่งผลให้สถานการณ์ปัญหายังคงมีความรุนแรง

      และตั้งแต่วานนี้(31 มี.ค.) มีรายงานการเกิดไฟไหม้พื้นที่ป่าที่ดอยหลวงเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ซึ่งแม้ว่าชาวบ้านอาสาสมัครในพื้นที่และเจ้าหน้าที่จะระดมความร่วมมือกันช่วยดับไฟตลอดคืนที่ผ่านมาแต่ล่าสุดยังคงมีไฟลุกไหม้อยู่

       ขณะที่รายงานจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน):GISTDA จีสด้า ระบุว่าข้อมูลจากดาวเทียม VIIRS ตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้(1 เม.ย.62) จำนวน 3,088 จุด จังหวัดแม่ฮ่องสอนพบมากที่สุด จำนวน 981 จุด รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 615 จุด จังหวัดเชียงราย จำนวน 370 จุด จังหวัดลำปาง จำนวน 302 จุด จังหวัดน่าน จำนวน 219 จุด จังหวัดแพร่จำนวน 214 จุด จังหวัดตาก จำนวน 211 จุด จังหวัดพะเยาจำนวน 116 จุด และ จังหวัดลำพูน จำนวน 60 จุด โดยยังไม่นับรวมในพื้นที่ของประเทศพม่าที่อยู่โดยรอบพื้นที่ภาคเหนือของไทยที่หนักกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว

      ด้านรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก ,ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง กับตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 เฉลี่ยในรอบ24ชั่วโมง ณ เวลา 09.00น. วันนี้ อยู่ที่ 129 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,89ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 54ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, และ 67 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ซึ่งยังคงเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

      ส่วนรายงานจากเว็บไซต์www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลกแบบเรียลไทม์ พบว่าจากการเปรียบเทียบค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ US AQI เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(30มี.ค.62) จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 391 US AQI สูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ขณะที่อันดับที่ 1 เป็นเมือง Astana , Kazakhstan และอันดับที่ 3 เป็นเมือง Delhi , India วัดได้ 196 US AQI ซึ่งข้อมูลคุณภาพอากาศดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานผลการตรวจวัดจากเว็บ www.cmaqhi.org ที่เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าเมื่อเวลา10.00น.ที่สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 277 และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5อยู่ที่ 227 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งหมายถึงอากาศไม่ดีอย่างยิ่ง

      รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้(1 เม.ย.) นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเน้นย้ำการดำเนินการมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้นในการเร่งคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ยอมรับว่าเกิดจุดความร้อนจากการเผาในพื้นที่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เล็กๆ ส่วนการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น ยังไม่มีการดำเนินการเนื่องจากการแก้ไขปัญหายังสามารถใช้กลไกตามขั้นตอนปกติได้

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก MGR Online