ข่าวแม่สอด : “อุดร”เสนอ เร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2

“อุดร”เสนอ เร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2

      “อุดร”เสนอ เร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 หลังรถบรรทุกสินค้าติดยาวถนนสู่สะพาน 1 – คาดราวเดือนกรกฎาคม 2562 เปิดใช้ได้

      เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 นายอุดร ตันติสุนทร อดีตรัฐมนตรี และอดีต สส.ตาก อดีต สว.ตาก ผู้ริเริ่มโครงการสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 แม่สอด(ตาก)-เมียวดี สหภาพเมียนมา กล่าวว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย-เมียนมา โดยรถบรรทุกสินค้า ในแต่ละวันมีจำนวนมาก ทำให้บริเวณถนนจากเขตเทศบาลนครแม่สอด ไปยัง สะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 1 รถบรรทุกสินค้าติดเป็นทางยาว 4-5 กม. ส่งผลกระทำต่อการสัญจรของประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ประกอบกับขณะนี้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว และ เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดป้ายและมีการเฉลิมฉลองไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ ตนเองจึงทำหนังสือถึงรัฐบาล และกระทรวง กรม -กอง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเร่งรัดขอให้เร่งดำเนินการเปิดใช้สะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 2 ควบคู่สะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 1 อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ระบายรถสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และเชื่อว่าสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 นั้น จะเพิ่มและสร้างมูลค่าการค้าชายแดนได้อย่างมหาศาล รวมทั้งด้านการท่องเที่ยวและมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ

      แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่ได้มีการเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอกระบวนการทางฝ่ายความมั่นคง โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติต้องมีการมาศึกษาตรวจสอบและเสนอเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเมื่อ ครม. อนุมัติ ก็จะให้กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศว่าบริเวณสะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 2 เป็นจุดผ่านแดนถาวร ร่วมกับฝ่ายเมียนมา คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน ซึ่งในราวเดือนกรกฎาคม 2562 น่าจะเปิดด่านถาวรสะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 2 ได้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฝ่ายไทย ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่านแม่สอด)- เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด-เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงตาก(แม่สอด) มีความพร้อมแล้ว เหลือเพียงกระบวนการด้านความมั่นคงคือการเปิดด่านพรมแดนถาวรและฝ่ายเมียนมาเท่านั้น

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS