ข่าวแม่สอด : แรงงานพม่าทะลักกลับไทย ข้ามฝั่งเมียวดีเข้าแม่สอดเต็มสะพานฯ หลังฉลองสงกรานต์

แรงงานพม่าทะลักกลับไทย ข้ามฝั่งเมียวดีเข้าแม่สอดเต็มสะพานฯ หลังฉลองสงกรานต์

แรงงานพม่าฉลองสงกรานต์บ้านเกิดเสร็จแห่กลับเข้าไทย ต่อคิวเดินขึ้นสะพานมิตรภาพฯ 1 ข้ามฝั่งเมียวดีเข้าแม่สอดจนล้นด่านฯ วันละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน คาดก่อนสิ้นเมษาฯ-สิ้นสุดระยะผ่อนผันค่าธรรมเนียมมาตรึมทุกวันแน่

       วันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอด 2-3 วันนี้บนสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 1 ที่เชื่อมระหว่าง อ.แม่สอด จ.ตาก-เมียวดี พม่า เต็มไปด้วยแรงงานชาวพม่าแห่เดินข้ามฝั่งจากเมียวดีข้ามสะพานฯ รอคิวทำพิธิการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านฯ แม่สอดกันวันละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน จนทำให้แถวยาวล้นด่านพรมแดนถาวรแม่สอด ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูงกว่า 41 องศาเซลเซียส จนหลายคนถึงกับต้องพกน้ำดื่ม และยาดมเพื่อป้องกันการเป็นลมแดด

      หลังจากแรงงานเหล่านี้เดินทางกลับบ้านไปฉลองสงกรานต์กันนับแสนๆ คน และรีบเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยแบบพร้อมกัน จนทำให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากต้องเสริมกำลังนับร้อยนายมาอำนวยความสะดวกจนล้นด่านตรวจ โดยมีการจัดให้เด็ก สตรี และผู้ป่วยเข้าไปในห้องบริการพิเศษ มีทีมตำรวจหญิงเข้ามาดูแลผู้ป่วยในห้องแอร์อย่างดี พร้อมกับจัดให้แรงงานอีกกว่าสองหมื่นคนเข้าแถวไปยังอาคารตรวจคนบุคคลหลังใหม่ ซึ่งเป็นอาคารติดแอร์ทั้งหลัง ทำให้แรงงานหลายคนคลายสภาพอากาศที่ร้อนจัดไปได้มาก
      พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมืองตาก (แม่สอด) กล่าวว่า ปีนี้รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้แรงงานสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา เดินทางกลับประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และจะต้องเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทยไม่เกินวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
       เทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีแรงงานพม่าได้ทยอยกลับประเทศก่อนวันสงกรานต์ไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน ซึ่งขาออกประเทศไม่มีปัญหา เพราะกลุ่มแรงงานค่อยๆ ทยอยกลับ แต่ขากลับเข้ามาประเทศไทยแรงงานพม่าที่เดินทางจากทุกหัวเมืองกลับข้ามด่านพรมแดนพร้อมกันจนล้นด่านพรมแดนแม่สอด

       ขณะนี้มีแรงงานเดินทางผ่านกลับเข้ามาที่ด่านพรมแดนแม่สอดไม่ต่ำกว่าวันละสองหมื่นคน และคาดว่าในห้วง 10 วันจนถึงสิ้นเดือนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนผันการจัดเก็บค่าธรรมเนียม จะมีแรงงานพม่าแห่ข้ามพรมแดนแม่สอดกว่าหนึ่งแสนคน

      “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ล่วงเลยไปถึงช่วงกลางดึก จึงจะสามารถระบายแรงงานทั้งหมดขึ้นรถโดยสารเดินทางเข้าไปทำงานในหัวเมืองชั้นใน-กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้หมด ซึ่งการบริการอำนวยความสะดวก และการตรวจตราบุคคลยังคงมีความเข้มงวดตามหลักสากลทุกอย่าง”

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก MGR Online