ข่าวแม่สอด : ไฟไหม้! กุฏิเก่าร้อยปีวัดดังชายแดนแม่สอด พระ-เณรสาดน้ำดับเอาไม่อยู่

         เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิไม้สักอายุนับร้อยปีวัดดังชายแดนแม่สอด พระ-เณรตีระฆังแจ้งเหตุ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่-ชาวบ้านนับร้อยช่วยสกัดเพลิงแต่เอาไม่อยู่ พบของโบราณล้ำค่าที่เก็บไว้ให้คนรุ่นหลังดูเสียหายหมด เหลือแต่พระพุทธรูป 3 องค์ไม่ระคายผิว

       วันนี้ (19 ก.ค.) นายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้กุฏิอายุนับ 100 ปี และที่เก็บสิ่งของโบราณล้ำค่า ภายในวัดเกศแก้วบูรพา หมู่ที่ 7 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.แม่สอด ที่ 3 พร้อมประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลแม่กุ-เทศบาลนครแม่สอด กว่า 10 คัน พร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์เขตแม่สอด ร่วมช่วยเหลือสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วน

       ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิไม้สักเก่าแก่หลังใหญ่ชั้นเดียวทรงโบราณอายุนับ 100 ปี ซึ่งใช้เป็นที่พักของสามเณร และเก็บรักษาสิ่งของล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ของวัดเป็นจำนวนมาก อยู่ติดกับศาลาหอฉัน และอาคารหลังอื่นๆ ภายในวัดบนพื้นที่หลายไร่

       โดยพบว่าเพลิงได้โหมไหม้กุฏิไม้หลังดังกล่าวอย่างรุนแรง และลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในมีสิ่งของเป็นเครื่องอัฐบริขารของพระสงฆ์ ตลอดจนหนังสือธรรมะจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปไหม้ศาลาหลังอื่น นานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

       ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเพลิงได้เผาไหม้กุฏิต้นเพลิงได้รับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ และเหตุการณ์นี้ก็สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่บรรดาชาวบ้านนับร้อยคนที่มาช่วยดับเพลิงในครั้งนี้

       จากการสอบถามพระครูกิตติธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดเกศแก้วบูรพา ให้การเบื้องต้นต่อตำรวจว่า กุฏิหลังดังกล่าวเป็นกุฏิไม้สักเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี ปัจจุบันใช้เป็นที่พักสามเณร และเก็บทรัพย์สินของโบราณมีค่าที่ทางวัดเก็บอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกเป็นจำนวนมาก

       ก่อนเกิดเหตุ สามเณร 6 รูปที่จำวัดกุฏิหลังนี้ได้ออกไปศึกษาพระธรรมวินัยที่ศาลาไม้หลังใหญ่ภายในวัด ต่อมาได้มีพระภิกษุในวัดตีระฆังวัดแบบรัวๆ และตะโกนว่า “ไฟไหม้..” จากนั้นทั้งพระ และสามเณรทั้งหมดกว่า 10 รูปต่างก็รีบวิ่งเข้าไปดับเพลิง แต่ไม่เป็นผล เพราะเพลิงลุกไหม้และลุกลามไปทั่วกุฏิ

       จากนั้นจึงรีบโทร.แจ้งเหตุให้นายอำเภอฯ ทราบเรื่อง จนในเวลาต่อมาชาวบ้านนับร้อยคนที่อยู่ใกล้วัด พร้อมเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังมาช่วยกันดับเพลิง แต่ก็ไม่ทันเวลา เนื่องจากเพลิงเผาไหม้กุฏิไปหมดทั้งหลัง โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทรัพย์อันทรงคุณค่าทางด้านจิตใจถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด หลงเหลือเพียงรูปหล่อครูบาคำ อดีตเจ้าอาวาส และรูปหล่อพระพุทธชินราชจำลอง รวมสามองค์ที่เพลิงไม่ระคายผิว ชาวบ้านจึงช่วยกันนำไปเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์

       เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งขณะนี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพข่าวจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000073563