ข่าวแม่สอด : 13 พย.นี้ คุมเข้มสินค้าผ่านแดนเข้าพม่า คลังชั่วคราวริมเมยสิ้นสภาพ

       13 พฤศจิกาฯนี้ พ.ร.บ.ศุลกากรใหม่ เริ่มบังคับใช้ คุมเข้มสินค้าผ่านแดนเข้าพม่า “คลังสินค้าชั่วคราว” ตลอดแนวริมเมย สิ้นสภาพ เปิดทางพัฒนาเข้าระบบเป็น “คลังสินค้าทัณฑ์บน-เขตปลอดอากร”

        นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า ด่านศุลกากรได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งรัฐ-เอกชน ที่ได้รับผลกระทบจากพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจถึงการใช้ พ.ร.บ.ศุลกากร ใหม่

         นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า กฎหมายศุลกากรฉบับใหม่ มีประเด็นสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติ และพิธีการนำสินค้าผ่านแดนที่มีปลายทางที่สหภาพเมียนมา ซึ่งมีความกังวลกันว่า จะสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ และอีกประเด็น คือ คลังสินค้าอนุมัติชั่วคราว ในพื้นที่แม่สอด ที่มีทั้งหมด 22 ท่าข้าม และใช้อยู่ 17-19 ท่า จะต้องสิ้นสภาพไปตามผลของกฎหมายฉบับใหม่

        ในประเด็นของการปฏิบัติพิธีการนำสินค้าผ่านแดนนั้น สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่เมื่อมีการนำเข้ามาแล้ว จะต้องมีการส่งออกภายใน 30 วันเท่านั้น ขณะที่สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ ยังคงสามารถส่งออกได้ตามปกติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติพิธีการเมื่อกฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ เพื่อให้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

         ส่วนคลังสินค้าอนุมัติชั่วคราว โดยข้อเท็จจริงคลังฯ ดังกล่าว ได้รับการอนุมัติชั่วคราวตามมาตรา 7(3) ของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ต้องสิ้นสภาพไปตามผลของกฎหมายฉบับใหม่ เนื่องจากในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ไม่มีคำว่า ให้อนุมัติชั่วคราว

         นายด่านศุลกากรแม่สอด และคณะ ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการถึงการดำเนินการ เพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละบุคคลในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 กล่าวคือ ให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอจัดตั้งเป็นคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้าที่มั่นคง และเขตปลอดอากร เพื่อทดแทนคลังสินค้าชั่วคราวเดิมที่จะสิ้นสภาพลงต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก MGR Online