ข่าวแม่สอด : เด็กม.1 พาเพื่อนซ้อนท้าย เสียหลักชนท้ายรถพ่วง ดับ 1 สาหัส 1
ตาก – เกิดอุบัติเหตุ เด็กนักเรียน ม.1 พาเพื่อนซ้อนท้ายฝ่าฝนเข้าตัวเมืองแม่สอด รถเสียหลักพุ่งชนท้ายรถพ่วงข้างทางแบบไม่มีเบรก รถพังยับดับคาที่ 1 เพื่อนที่ซ้อนมาด้วยบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ สำแดงเดช พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส รอการช่วยเหลือ บริเวณถนนสายแม่สอด-แม่ระมาด ช่วง กม.ที่ 8 บ้านแม่กื๊ดหลวง หมู่ 9 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด หัวค่ำวานนี้ (18 มิ.ย.) จึงรีบประสานหน่วยกู้ชีพแม่กื๊ดหลวง และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับจุดกลับรถปากทางเข้าบ้านแม่กื๊ดหลวงติดกับถนนสายหลัก และพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-3631 ตาก ที่บรรทุกสินค้ามาเต็มคัน จอดอยู่ริมถนน สภาพรถด้านท้ายส่วนหางพ่วงพังยุบ ไฟท้ายแตก โดยมีนายชุมพล ปันสา อายุ 60 ปี คนขับรถยืนรอให้การต่อตำรวจด้วยอาการตกใจ
บริเวณท้ายรถพ่วงคันดังกล่าวพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินคาดดำ หมายเลขทะเบียน กบฉ 411 ตาก สภาพรถพังเสียหายยับเยิน ข้างรถพบศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนชื่อดังในแม่สอด นอนจมกองเลือดกองใหญ่ กะโหลกศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ แขน-ขาหักหลายท่อน เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ติดกันกับศพยังพบร่างของ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต สภาพนอนแน่นิ่งจมกองเลือด หมดสติหายใจรวยริน หน่วยกู้ชีพต้องรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และปั๊มหัวใจ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของบรรดาผู้ปกครองเด็กนักเรียนทั้งสองคน และชาวบ้านจำนวนมากที่มาดูการช่วยเหลือชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บในจุดเกิดเหตุ ก่อนที่หน่วยกู้ชีพจะรีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอดอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุออกจากบ้านพักเพื่อเดินทางไปตัวอำเภอแม่สอด โดยมีเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ท่ามกลางพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พอออกจากบ้านพักมาได้เพียง 1 กิโลเมตรรถเกิดเสียการควบคุมพุ่งไปชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อที่จอดอยู่ข้างถนนอย่างแรงแบบไม่มีเบรกเสียงดังสนั่น จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุตกใจรีบวิ่งออกมาดูก็พบกับภาพที่สลด เนื่องจากพบว่า ด.ช.เอ (นามสมมติ) เสียชีวิตจมกองเลือดคารถ ส่วนเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายรถก็กำลังหายใจรวยริน
จากนั้นชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์จึงรีบโทร.แจ้งสายด่วนฉุกเฉิน 1669 จนในเวลาต่อมาหน่วยกู้ชีพจากหลายหน่วยงานเดินทางมาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเพราะไม่สวมหมวกนิรภัยในระหว่างการขับขี่รถจักรยานยนต์
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000062196